โรคออทิสติกนั้นถือว่าเป็นโรคที่สร้างความน่าเวทนาและความสงสารให้กับเด็กที่เป็นรวมถึงพ่อแม่ที่มีลูกเป็นโรคนี้อย่างมาก เหตุผลก็เนื่องมาจากโรคออทิสติกนั้นเป็นโรคที่เกิดจากพัฒนาการที่ผิดพลาดของเด็ก ซึ่งก็จะมีลักษณะอาหารที่แตกต่างกันออกไป ไม่ได้เกิดจากการป่วยเป็นโรคใดโรคหนึ่งแต่จะเป็นได้ตั้งแต่แรกเกิดเลยทีเดียว ซึ่งแนวโน้มที่จะสามารถสังเกตได้ว่าเด็กคนไหนมีโอกาสที่จะเป็นออทิสติกก็เกิดมาจากเรื่องของพฤติกรรม ซึ่งในความเป็นจริงนั้นอาการของโรคออทิสติกจะเริ่มแสดงออกมาตั้งแต่อายุ 3 เดือนเป็นต้นไป และจะเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อเด็กมีอายุครบ 2 ขวบ
ซึ่งสาเหตุของการเกิดดรคออทิสติกนั้นหลายๆ คนก็น่าจะเข้าใจดีว่าส่วนมากมันเกิดจากจากพันธุกรรมที่ผิดเพี้ยนไปจากคนปกติ ซึ่งแน่นอนว่าการสังเกตในเรื่องพฤติกรรมของเด็กเหล่านี้เป็นสิ่งที่พ่อแม่พึงที่จะกระทำเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะทำให้ได้รู้ว่าลูกของเรานั้นมีความเสี่ยงในการเป็นออทิสติกหรือว่ากำลังเป็นออทิสติกหรือไม่ เริ่มต้นง่ายๆ เมื่อเด็กมีอายุได้ประมาณ 3 เดือนให้ลองสังเกตพฤติกรรมทางกาย เด็กปกตินั้นเมื่อเริ่มรู้เรื่องจะต้องมีการตอบโต้หรือพยายามพูดคุยกับพ่อแม่ มีอารมณ์สนุกสนาน ยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ สามารถเริ่มจดจำหน้าของพ่อแม่ได้ มีการตอบสนองได้ด้านต่างๆ แต่ถ้าหากว่าเด็กที่มีอาการออทิสติกนั้นจะมีพฤติกรรมที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง จะไม่พูด ไม่มีการกระทำใดๆ มีอาการเฉยๆ เมื่อได้เห็นสิ่งต่างๆ รอบตัว มักจะทำอะไรซ้ำๆ แบบเดิม เช่น ร้องเพลงเดิมๆ วนไปวนมา ซึ่งตรงจุดนี้สามารถที่จะสังเกตได้อีกคือเรื่องพฤติกรรมในการเข้าสังคม เรื่องของการพยายามจะสื่อสารกับคนอื่นว่าเป็นไปอย่างที่เด็กทั่วๆ ไปเป็นหรือไม่ ซึ่งพฤติกรรมอื่นๆ ที่สามารถบ่งบอกได้ว่าเด็กมีแนวโน้มเป็นออทิสติกหรือไม่จะมีดังนี้
ดูดนมไม่ปกติ, มีพฤติกรรมเงียบเฉย, ไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่งเกี่ยว, ไม่มีอาการหรือส่งเสียงเรียกเพื่อขอความช่วยเหลือใดๆ, ไม่สบตากับคนอื่น, ไม่อยากให้ใครอุ้ม, ไม่มีการตอบสนองทางด้านของอารมณ์, ไม่พยายามเลียนแบบใคร, ไม่ร้องเสียงอ้อแอ้, ชี้นิ้วไม่เป็น, ไม่เรียกคนอื่นให้มาเล่นด้วย, ไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้นเมื่อถูกชักชวน, ไม่แสดงอาการใดๆ เมื่อรู้สึกดีหรือว่าเจอคนที่ถูกใจ ขณะที่บางคนก็จะแสดงออกมาเกินกว่าปกติที่ควรจะเป็น, คิดอะไรซ้ำๆ หรือติดพันกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งซ้ำๆ หรือไม่สามารถเข้าร่วมอะไรกับผู้อื่นได้ ก็เป็นพฤติกรรมที่บ่งชี้ได้เหมือนกัน